ระบบจัดการ “ค่าขนส่ง” WooCommerce Shipping
หมวด : woocommerce
WooCommerce Shipping คือระบบจัดการ “ค่าขนส่ง” ที่มาพร้อมกับ WooCommerce โดยช่วยให้เจ้าของร้านออนไลน์สามารถตั้งค่ารูปแบบการจัดส่งสินค้าได้ตามโซนพื้นที่ น้ำหนัก ราคา หรือบริการขนส่งที่ต้องการ เช่น ส่งฟรี ค่าจัดส่งคงที่ หรือคำนวณแบบเรียลไทม์ร่วมกับผู้ให้บริการขนส่ง (เช่น USPS, DHL ฯลฯ)
WooCommerce Shipping เป็นหัวใจสำคัญของการขายสินค้าจริง (physical products) ในร้านค้าออนไลน์ เพราะช่วยให้เราจัดการ ต้นทุนขนส่ง และมอบ ทางเลือกให้ลูกค้า อย่างมืออาชีพ
WooCommerce Shipping เป็นบริการ (plugin เสริม) จากทีม WooCommerce โดยตรง ซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยเจ้าของร้านออนไลน์ให้ จัดการการจัดส่งได้ง่ายขึ้น เช่น:
พิมพ์ ใบแปะพัสดุ (Shipping Labels) ได้จากหลังบ้าน WooCommerce เลย
ประหยัดเวลา เพราะไม่ต้องเข้าเว็บไซต์ขนส่งแยก
ประหยัดเงิน เพราะ WooCommerce มีดีลส่วนลดกับผู้ให้บริการขนส่ง (เฉพาะบางประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา)
🔍 ตัวอย่างที่ทำให้ “ประหยัดเวลาและเงิน” ได้จริง:
ประโยชน์ | รายละเอียด |
---|---|
⏱ ประหยัดเวลา | ไม่ต้องกรอกข้อมูลผู้รับซ้ำ, พิมพ์ใบจ่าหน้าในคลิกเดียว |
💸 ประหยัดเงิน | ได้ราคาค่าขนส่งที่ถูกลง จากข้อตกลงของ Woo กับผู้ให้บริการ |
📦 จัดการง่าย | ระบบเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการ เช่น USPS หรือ DHL โดยตรง |
🛒 ลูกค้าเลือกขนส่งได้ | เพิ่มความยืดหยุ่นและความพึงพอใจให้ลูกค้า |
⚙️ ระบบหลักของ WooCommerce Shipping:
1. ✅ Shipping Zones (โซนจัดส่ง)
เป็นการแบ่งพื้นที่จัดส่ง เช่น “ประเทศไทย”, “กรุงเทพ”, “ต่างประเทศ”
ใช้กำหนดว่า “พื้นที่นี้” จะมีบริการจัดส่งใดบ้าง
สามารถมีหลายโซน เช่น:
ประเทศไทย
ต่างประเทศ (นอกเขต)
เขตพิเศษเฉพาะ (เช่น ภาคใต้ เก็บปลายทาง)
📌 แต่ละโซนต้องระบุว่ามี “Shipping Method” อะไรบ้าง
2. ✅ Shipping Methods (รูปแบบการจัดส่ง)
เป็นวิธีการส่งของ เช่น ส่งฟรี, ส่งด่วน, ส่งธรรมดา, คิดราคาตามน้ำหนัก ฯลฯ
WooCommerce มี Shipping Methods พื้นฐาน 3 แบบ:
ประเภท | รายละเอียด |
---|---|
🚚 Flat Rate | คิดค่าส่งแบบคงที่ เช่น 50 บาททุกออเดอร์ |
🎁 Free Shipping | ส่งฟรีตามเงื่อนไข เช่น ยอดซื้อ > 1,000 บาท |
🔄 Local Pickup | ลูกค้ามารับเองที่หน้าร้าน (ไม่มีค่าส่ง) |
หากต้องการฟังก์ชันเพิ่มเติม เช่น “คิดค่าส่งตามน้ำหนัก” หรือ “ตามพื้นที่ไปรษณีย์” → ต้องใช้ ปลั๊กอินเสริม เช่น:
Table Rate Shipping
Flexible Shipping
Thai Shipping Plugins (Kerry, Flash, EMS)
3. ✅ Shipping Classes (คลาสจัดส่ง)
ใช้จัดกลุ่มสินค้าเพื่อกำหนดอัตราค่าส่งเฉพาะกลุ่มนั้น
ตัวอย่าง:
สินค้าหนัก (เฟอร์นิเจอร์) → ค่าส่ง 500 บาท
สินค้าเบา (เครื่องสำอาง) → ค่าส่ง 50 บาท
📌 ใช้คู่กับ Flat Rate หรือ Table Rate เพื่อแยกค่าส่งตามชนิดสินค้า
🧭 ตัวอย่างการตั้งค่าจริง:
ต้องการตั้งค่าค่าส่งในไทย ดังนี้:
ส่งฟรีเมื่อยอดสั่งซื้อ ≥ 1,000 บาท
ส่งธรรมดา (Flat Rate) = 40 บาท
ส่งด่วน (EMS) = 70 บาท
🪜 ขั้นตอน:
ไปที่:
WooCommerce > Settings > Shipping > Shipping Zones
สร้าง “โซนประเทศไทย”
เพิ่ม 3 รูปแบบจัดส่ง:
Free Shipping (เงื่อนไขยอดซื้อ ≥ 1,000)
Flat Rate = 40
Flat Rate = 70 → ตั้งชื่อว่า “EMS ด่วนพิเศษ”
💼 WooCommerce Shipping (บริการจาก WooCommerce.com)
นอกจากระบบจัดส่งพื้นฐาน WooCommerce ยังมีปลั๊กอิน WooCommerce Shipping (ฟรี) ที่เชื่อมต่อกับ USPS และ DHL โดยตรง
จุดเด่นของ WooCommerce Shipping (บริการ):
พิมพ์ใบจ่าหน้าพัสดุ (shipping label) จากหลังบ้านได้เลย
มีส่วนลดราคาพัสดุจากผู้ให้บริการ (เฉพาะในสหรัฐฯ)
เชื่อมต่อกับ WooCommerce Admin โดยตรง
📌 ปลั๊กอินนี้เหมาะกับร้านใน USA มากกว่า (เพราะใช้ USPS เป็นหลัก)
🔌 ปลั๊กอินเสริมยอดนิยมสำหรับจัดส่งในไทย:
ปลั๊กอิน | รายละเอียด | เหมาะกับ |
---|---|---|
Thai Post Shipping | คำนวณตามไปรษณีย์ไทย | สินค้าทั่วไป |
Flash Express for WooCommerce | เชื่อมระบบ Flash + ปริ้นท์ใบแปะ | E-commerce ทั่วไป |
Kerry Express WooCommerce | เชื่อม API Kerry (บางปลั๊กอิน) | ขายด่วนในประเทศ |
Table Rate Shipping | สร้างเงื่อนไขซับซ้อน | ร้านค้ามีหลากหลายขนาดสินค้า |
Flexible Shipping | คิดตามน้ำหนัก ปริมาณ จำนวน | ร้านที่มีราคาขนส่งซับซ้อน |
📌 สรุป:
WooCommerce Shipping คือระบบจัดการค่าขนส่งที่ยืดหยุ่น เรียบง่าย และใช้งานได้ดีในระดับเริ่มต้นถึงกลาง แต่หากร้านของคุณมี:
สินค้าหลากหลายขนาด
เงื่อนไขค่าส่งซับซ้อน
ต้องการเชื่อมต่อขนส่งในไทย
👉 แนะนำให้ใช้ปลั๊กอินเสริม เช่น Table Rate หรือปลั๊กอินของขนส่งไทย จะเหมาะสมและมืออาชีพมากกว่า
Facebook : Webplandee